เรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ที่เชื่อได้เลยว่า ใครหลายๆคนก็อาจจะยังสงสัยกันอยู่เพราะว่ามันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเวลา ทฤษฎีสัมพัทธภาพ คุณรู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วเวลา คืออะไร มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรใครเป็นคนกำหนดว่าเวลาต้องเป็นแบบนี้ เวลาคือสิ่งนี้ เวลาคือสิ่งที่กำหนดเวลา
แต่แน่นอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างมัน มีการเปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอดเวลา ยิ่งมีสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นอยู่ตลอด ถ้าไม่มีการศึกษาเรื่องราวของเวลาเพิ่มเติมทำให้เราเองก็เริ่มที่จะไม่แน่ใจว่า เราควรที่จะชื่ออะไรกันแน่
เวลานั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญเป็นอย่างมาก ทุกคนมีเวลาที่เท่าเทียมกันอยู่กับว่าเราจะใช้เวลา ที่มีอยู่นั้นคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน คุณรู้หรือไม่ว่าเรื่องราวของเวลานี้ มันยังคงเป็นปริศนาทางวิทยาศาสตร์ ที่ยังคงหาคำตอบไม่ได้ เพราะคุณรู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วนั้น เวลาคืออะไรกันแน่โดยทั่วไปแล้วนักวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดในรูปแบบของ 4 มิติ
อันได้แก่ ความยาว ความสูง ความลึกหรือตามแนวแกน XYZ แล้วทั้งหมดที่ว่านี้ ก็มีเวลาเป็นมิติที่ 4 มาครอบครองอีกที แต่ว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ เห็นต่างโดยระบุว่า ค่าของเวลา คือ สิ่งที่ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้สังเกตการณ์เนื่องจากแรงโน้มถ่วง สามารถหยุดเวลาได้ แต่ยิ่งวันเวลาผ่านไปไม่มีทฤษฎีใหม่ๆเกิดขึ้นมา
มันก็ยิ่งทำให้เราไม่แน่ใจว่า เราควรจะเชื่อสิ่งไหนดีหรือไม่เรากลับไปมองมุมมองแบบ 4 มิติ อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วในช่วงต้น มันก็สอดคล้องกับคำกล่าวที่ว่า เวลานั้นคือสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้ แต่ว่าในปัจจุบันคำพูดนี้ ก็ดูเหมือนจะไม่แน่นอนซะแล้ว เนื่องจากทฤษฎีสมัยใหม่ ระบุว่าถ้าเวลาในจักรวาลของเรามันเดินหน้าไปอย่างเดียว
มันก็มีความเป็นไปได้เช่นกันอีกด้านหนึ่ง ของจุดเริ่มต้นเวลานั้น อาจเดินถอยหลังโดยแนวความคิดนี้ มีรากฐานมาจากทฤษฎีบิกแบง ซึ่งระบุว่าเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปะทุออกมาไม่ได้ มีแค่ด้านเดียวแต่ด้านที่อยู่ตรงข้าม เกิดการปะทุเช่นเดียวกันและในด้านนั้น เวลาน่าจะได้ในทิศทาง
ซึ่งก็คือ การเดินถอยหลังจึงทำให้นักวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถฟันธงได้ว่าจริงๆแล้วเวลา คืออะไร กันแน่ และหากว่าเวลามีอยู่จริงและเหตุผลของการดำรงอยู่ของเวลานั้น คืออะไร สุดท้ายนี้นอกจากเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเวลา มันก็ยังมีเจตนาอื่นอีกมากมาย ที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถหาคำตอบได้
และมันก็ยังคงเป็นปริศนามาจนถึงในปัจจุบันนี้ ต่อให้วิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าไปมากแค่ไหนแล้ว ก็ให้จะมีทฤษฎีออกมานับไม่ถ้วน แต่เราก็ไม่สามารถที่จะฟันธงได้อย่างแน่นอนว่า สิ่งที่เรารู้และศึกษามามันคือเรื่องจริง
สนับสนุนโดย. ufabet สมัครสมาชิก